การประกาศมาตรการทางการเงินใหม่ทำให้พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของกรีซเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีความต้องการเพิ่มขึ้น 5 เท่าและยังสามารถอนุญาตให้ผู้สูงอายุในยุโรปได้รับเงินปันผลเพิ่ม 1.55 เปอร์เซนต์ซึ่งเป็นงบที่มีมูลค่ารวมทั้งหมดประมาณ 3,000 ล้านยูโร ($3,400 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในการขายพันธบัตรรอบที่ 2 นับตั้งแต่วิกฤตโควิดระบาด

เมื่อเดือนที่แล้วกรีซสามารถขายพันธบัตรรัฐบาลอายุ 7 ปีไปได้เป็นจำนวนเงิน 2 พันล้านยูโร ($2,270 ล้านเหรียญสหรัฐ) หลังจากมีการเพิ่มมาตรการทางการเงินให้กับการซื้อพันธบัตรรัฐบาลอายุ 15 ปีมูลค่า 2,500 ล้านยูโร ($2,800 ล้านเหรียญสหรัฐ) เมื่อเดือนมกราคม

นักลงทุนที่สนใจในการถือพันธบัตรรัฐบาลต่างพากันกระโดดเข้ามาซื้อพันธบัตรของประเทศที่ได้รับการอุ้มจากสหภาพยุโรปทันทีซึ่งการอุ้มนี้เป็นไปตามนโยบายโครงการซื้อสินทรัพย์ฉุกเฉินสำหรับโรคระบาดใหญ่ (PEPP) ที่มีมูลค่าสูงถึง 1.350,000 ล้านยูโรของธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) นอกจากนี้ ECB ยังระงับแผนการซื้อสินทรัพย์บางประเภทออกไปก่อนเพื่อนำเงินที่มีไปซื้อสินทรัพย์ที่อยู่ในประเทศกรีซโดยไม่สนว่าสินทรัพย์ดังกล่าวจะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม investment grade หรือไม่

ก่อนหน้านี้กรีซได้ทำตามแผนการปรับโครงสร้างหนี้ตามที่สหภาพยุโรปได้กำหนดเอาไว้ซึ่งรวมไปถึงมาตรการรัดเข็มขัดต่างๆ ที่เคยเป็นข่าวอยู่ในช่วงปี 2016-2018 การที่โครงการ PEPP ของสหภาพยุโรปมีผลบังคับใช้กับกรีซด้วยจะช่วยให้กรีซไม่ต้องได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 มากอย่างที่ควรจะเป็น

แรงหนุนจาก EU ทำให้สินทรัพย์ต่างๆ ของกรีซและประเทศอื่นๆ ปรับตัวสูงขึ้น-1
Greece 10Y Weekly

กราฟพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของกรีซปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1% เมื่อเดือนกุมภาพันธ์และหลังจากนั้นในเดือนมีนาคมก็ทะยานขึ้น 4% โดยมีสาเหตุมาจากคำแถลงการณ์ของนางคริสตีน ลาการ์ดประธาน ECB ที่ออกมาบอกว่า “ECB ไม่ได้มีหน้าที่เป็นผู้คอยควบคุมดูแลค่าส่วนต่างในการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลของกลุ่มยูโรโซนให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสม”

หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ออกมาแก้ต่างกับประโยคนั้นอย่างรวดเร็วซึ่งส่งผลให้ ECB ในตอนนี้สามารถควบคุมค่าส่วนต่างนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอนนี้ ECB ได้เข้ามาช่วยอุ้มกรีซไปแล้วด้วยเงินประมาณ 4,690 ล้านยูโรตามแผนโครงการ PEPP และแทนที่จะปล่อยให้ครบกำหนดไปตั้งแต่สิ้นเดือนพฤษภาคมกลายเป็นว่า ECB กลับยืดระยะเวลาการช่วยเหลือนี้ยาวออกไปเพื่อให้สามารถมีเวลาในการซื้อสินทรัพย์จากกรีซเพิ่มขึ้น

ความช่วยเหลือนี้ส่งผลให้กราฟพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของกรีซปรับตัวลดลงไปถึง 1.2% เมื่อวันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน

อีกหนึ่งประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรปคือประเทศไอร์แลนด์ทำให้กราฟพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงและกลายเป็นการซื้อเวลาให้กับธนาคารกลางไอร์แลนด์ในการเคลียร์หนี้ปรับดุลบัญชีการค้าของประเทศแทนที่จะต้องอาศัยอยู่กับการประมูลเพื่อซื้อสินทรัพย์อยู่ตลอดเวลา

แรงหนุนจาก EU ทำให้สินทรัพย์ต่างๆ ของกรีซและประเทศอื่นๆ ปรับตัวสูงขึ้น-2
Ireland 10Y Weekly

นักลงทุนพร้อมที่จะลงทุนเป็นเงินจำนวน 70,000 ล้านยูโรซึ่งมากกว่าเดิม 2 เท่า (33,000 ล้านยูโร) กับการซื้อสินทรัพย์จากรัฐบาลที่มีเป้าหมายเพื่อการให้ได้มาของเงินจำนวน 6,000 ล้านยูโร หากทำเช่นนั้นเท่ากับว่ายอดในการกู้ยืมของประเทศไอร์แลนด์ในปีนี้ทั้งหมดจะเท่ากับ 18,500 ล้านยูโรซึงเป็นตัวเลขที่ยังอยู่ในกรอบระหว่าง 20,000 ล้านยูโร - 24,000 ล้านยูโรตามที่ตั้งเป้าเอาไว้

ครั้งนี้ไอร์แลนด์ไม่ได้รอจนกระทั่งให้เกิดวิกฤตหนี้กับประเทศตัวเองในปี 2010 หรือรอจนกระทั่งเหมือนสหรัฐฯ ที่ต้องเจอวิกฤตทางการเงินในปี 2008 จนทำให้ IMF หรือ EU เข้ามาเป็นคนจัดการปัญหาให้ตามแบบฉบับของพวกเขาเอง

การกู้ยืมครั้งนี้ของไอร์แลนด์เป็นไปเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตโควิด-19 เป็นหลักซึ่งนักลงทุนก็เข้าใจและยินดีที่จะซื้อสินทรัพย์จากภาครัฐ อันที่จริงแล้วกราฟพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของไอร์แลนด์ลงไปอยู่ในระดับติดลบมาตั้งแต่ปี 2019 ก่อนที่โควิดจะเข้ามาระบาดเสียอีก แต่ก็เพราะการมาของโควิดที่ทำให้กราฟพันธบัตรรัฐบาลนี้สามารถขึ้นไปมากกว่า 500 จุดเบสิสจนอยู่ในแดนบวก ล่าสุดเมื่อวันจันทร์กราฟก็ได้กลับลงมาอยู่ในแดนลบอีกครั้งเป็นที่เรียบร้อย

ข่าวการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศก็มีส่วนช่วยให้สถานการณ์ของไอร์แลนด์เป็นไปในทางที่ดีเมื่อนักการเมืองฝ่ายกลางและขวา Fianna Fail และ Fine Gael ขอสงบศึกการดูเชิงระหว่างกันและกันที่กินเวลาถึง 4 เดือนลงก่อนเพื่อหันมาช่วยประเทศให้ผ่านวิกฤตโรคระบาด

แรงหนุนจาก EU ทำให้สินทรัพย์ต่างๆ ของกรีซและประเทศอื่นๆ ปรับตัวสูงขึ้น-3
Spain 20Y Weekly

ความต้องการถือพันธบัตรรัฐบาลอายุ 20 ปีของประเทศสเปนก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน จากเดิมที่รัฐบาลตั้งงบไว้ว่าจะได้เงินจากการปล่อยให้ซื้อพันธบัตรเป็นเงินประมาณ 12,000 ล้านยูโรกลับกลายเป็นว่าได้มามากถึง 78,000 ล้านยูโรจนกราฟพันธบัตรรัฐบาลอายุ 20 ปีมีตัวเลขอยู่ที่ 0.92% เมื่อวันจันทร์

ประเทศสเปนถือเป็นหนึ่งที่เคยผ่านบทเรียนผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจราคาที่อยู่อาศัยสูงเกินกว่าความเป็นจริงจนธนาคารไม่สามารถอุ้มหนี้ของประชาชนได้ในปี 2012 แต่เพราะการเรียนรู้จากบทเรียนในอดีตจึงทำให้สเปนมีความเสี่ยงทางการเงินน้อยกว่าประเทศอื่นๆ อย่างเช่นไอร์แลนด์ โปรตุเกสและกรีซ

สหภาพยุโรปที่ในตอนนี้มีการเดินเกมที่ฉลาดขึ้นได้มีการปล่อยกู้ให้กับประเทศที่มีกราฟพันธบัตรรัฐบาลอยู่ใกล้กับระดับศูนย์ นอกจากการเข้าไปซื้อสินทรัพย์ของ ECB แล้วทางสหภาพยุโรปเองก็กำลังพิจารณาจะให้เงินเยียวยาจำนวน 500,000 ล้านยูโรเพื่อช่วยเหลือในจุดที่มีความเสี่ยงจะล้มมากที่สุดซึ่งจะยิ่งเป็นการดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาถือพันธบัตรรัฐบาลในกลุ่มสหภาพยุโรปมากยิ่งกว่าเดิม

ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้กลุ่มสมาชิกประเทศที่อยู่ใน EU กำลังพิจารณาเพิ่มเงินช่วยเหลือให้กับธนาคารกลางแต่ละประเทศสมาชิกเพื่อนำไปเสริมสภาพคล่องให้กับตลาดและลดภาระให้กับธนาคารเกี่ยวกับการกู้ยืมในช่วงวิกฤตโควิด-19

แนะนำโพสต์

มองหลายมุม Inverted Yield Curve ส่วนต่างผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ

ผู้ลงทุนต่างยังคงว้าวุ่นใจเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แม้ว่าความแตกตื่นที่ทำให้ตลาดหุ้นดิ่งลงเมื่อวันศุกร์จะคลี่คลายลงไปบ้างแล้วก็ตาม ตลาดหุ้นมีราคาปิดหลายทิศทางอันเนื่องมาจากภาวะลาดลงของส่วนต่างผลตอบแทนระหว่างพันธบัตร (Inverted Yield Curve)แบบสามเดือนและแบบอายุสิบปีที่มีช่วงกว้างเพิ่มขึ้นถึง 5 หน่วย

กราฟประจำวัน: ผู้ถือพันธบัตรระยะยาวอาจได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า

ในขณะที่ตลาดยังคงเชื่อว่าการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯใช้มาตรการคว่ำบาตรกับบริษัทหัวเหว่ยเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาพันธบัตรสูงขึ้น การทยอยนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ บ้างอย่างเช่นเยน,ฟรังก์สวิสและทองคำก็น่าจะช่วยคลายความกังวลดังกล่าวลงได้บ้าง